สาวไม่อยู่บ้าน แต่โดนโทรด่าตี 2 เพราะ "ทำเสียงดัง" รู้สามีแอบทำเรื่องลับๆ ฟ้องหย่าทันที!

สาวไม่อยู่บ้าน แต่โดนโทรด่าตี 2 เพราะ "ทำเสียงดัง" รู้สามีแอบทำเรื่องลับๆ ฟ้องหย่าทันที!

สาวไม่อยู่บ้าน แต่โดนโทรด่าตี 2 เพราะ "ทำเสียงดัง" รู้สามีแอบทำเรื่องลับๆ ฟ้องหย่าทันที!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 สาวมึน ไม่อยู่บ้านแต่โดนโทรด่าตี 2 เพราะ "ทำเสียงดัง" รู้สามีแอบทำเรื่องลับๆ กับเพื่อนรัก เอาคืนแบบไม่เหลือที่ยืนในวงการ!!!!

ตามรายงานเว็บไซต์ข่าว SOHA ผู้หญิงคนหนึ่งออกมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต เมื่อตัดสินใจหย่าร้างกับสามี หลังจากรับสายโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านตอนตี 2 โทรเข้ามาบ่นเรื่องทำเสียงดัง ทั้งที่เธอ “ไม่อยู่บ้าน” ก่อนรู้เบื้องหลังเสียงปริศนาคือเรื่องลับๆ ของสามี

เธอเล่าว่า ตนเองและสามีเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นในวิทยาลัย ปัจจุบันแต่งงานกันมาได้ 3 ปีแล้ว และกำลังบริหารโรงงานเล็กๆด้วยกัน ที่ผ่านมาทั้งคู่พักความคิดเรื่องมีลูกไว้ก่อน เพราะมีความฝันและความมุ่งมั่นกับอาชีพการงานอย่างมาก

กระทั่งสถานการณ์ทางธุรกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามร่วมกัน จึงเริ่มคิดถึงการพักผ่อนและมีความสุขกับชีวิตได้ อย่างไรก็ดี ในเวลานี้แม่ของเธอเกิดป่วยหนัก ในขณะที่โรงงานก็ต้องการคนคอยดูแล สามีจึงต้องรับผิดชอบเรื่องธุรกิจอยู่ในเมือง ส่วนเธอกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมแม่คนเดียว โดยไมาคาดคิดเลยว่าชีวิตแต่งงานจะพังทลายลง…

หลังจากกลับมาถึงบ้าน พบว่าอาการของแม่เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว ขณะเดียวกันสามีก็โทรมาบอกให้เธออยู่กับแม่อย่างสบายใจส่วนเขาจะรับหน้าที่ดูแลทุกอย่างในเมืองให้เรียบร้อยเอง เมือฟังสามีพูดเช่นนี้จึงรู้สึกมั่นใจ และตัดสินใจอยู่บ้านกับแม่อีกสักพัก

จนกระทั่งวันหนึ่ง ช่วงเวลาประมาณตี 2 ค่ำคืนอันเงียบสงบในบ้านเกิดของเธอก็พังทลายลงด้วยเสียงโทรศัพท์กะทันหัน เธอจำต้องตื่นขึ้นมารับสายอย่างไม่เต็มตานัก ปลายสายคือเสียงของเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ชั้นล่างของบ้านในเมือง เอ่ยถามอย่างขุ่นเคืองว่า “คุณกับสามีทะเลาะกันเหรอ? ทำไมถึงเสียงดังขนาดนี้? มันทำให้ฉันนอนไม่หลับ”

คำถามนี้ทำให้เธอตกตะลึง ความรู้สึกหวั่นใจแล่นเข้ามาในหัวใจ ในเมื่อเธอกลับมาดูแลแม่ที่นี่ แล้วบ้านในเมืองที่สามีอาศัยอยู่คนเดียว จะมีเสียงเหมือนคนทะเลาะกันได้อย่างไร เป็นไปได้ไหมว่าสามีจะทำอะไรบางอย่างที่น่าสงสัย…?

“คุณได้ยินถูกต้องหรือเปล่า? ตอนนี้ฉันไม่อยู่บ้าน ฉันจะรบกวนคุณได้อย่างไร” เธอพยายามซ่อนความสับสน และเอ่ยถามกลับไปด้วยเสียงสั่นๆ เมื่อได้ยินดังนั้นเพื่อนบ้านก็งุนงงเช่นกัน แต่แล้วจู่ๆ ก็เหมือนอีกฝ่ายนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงลดเสียงลงและพูดว่า

"ทำไม... เมื่อเร็วๆ นี้ สามีของคุณมักจะพาเด็กสาวกลับมาบ้าน ฉันคิดว่าเป็นเพื่อนหรือญาติของพวกคุณ ฉันก็เลยไม่สนใจแต่วันนี้มีเสียงรบกวนมาก ดังนั้นคุณควรกลับมาที่บ้าน แล้วดูว่ามีอะไรเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”

คำพูดของเพื่อนบ้านก็เหมือนกับค้อนอันหนักหน่วงที่กระทบจิตใจของเธอ ทำให้ความคิดสับสนวุ่นวายไปหมด สามีที่เริ่มต้นธุรกิจและผ่านเรื่องราวขึ้นๆ ลงๆ มากมายมาด้วยกัน จะทำเรื่องเช่นนั้นลับหลังภรรยาได้ลงจริงหรือ?

กระชากหน้ากากสามีนอกใจ รู้ตัวตนชู้รักยิ่งตกตะลึง

เธอวางสายโทรศัพท์ด้วยความกังวล และเริ่มนึกถึงการกระทำแปลกๆ ของสามีในช่วงที่ผ่านมา เขามักจะกลับบ้านดึกมากด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า และทัศนคติที่มีต่อภรรยาก็เริ่มเย็นชามากขึ้นเช่นกัน ในตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเพราะเขายุ่งกับงานที่บริษัทมาก แต่ตอนนี้เริ่มขุ่นเคือง เมื่อคิดว่าเขาอาจพาผู้หญิงคนอื่นกลับบ้าน ในขณะที่ภรรยาดูแลแม่ยายที่ป่วยหนัก

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอบอกแม่ว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ และกลับเข้าเมืองโดยไม่บอกสามีล่วงหน้า เพราะต้องการค้นหาความจริงให้ชัดเจน จึงแวะซื้อกล้องวงจรปิด วางแผนจะติดไว้ที่บ้านเพื่อบันทึกการกระทำของสามี ถ้าเขามีความสัมพันธ์นอกกฎหมายจริงๆ นั่นคงเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุด

เมื่อกลับถึงบ้านเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะสามีไม่อยู่บ้าน รีบจัดการซ่อนกล้องไว้ที่มุมห้องนั่งเล่น หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้ว ก็ไปเปิดห้องนอนที่โรงแรม  และคอยตรวจดูพฤติกรรมของสามีผ่านกล้องนั้นอย่างใจเย็น

หลังจากผ่านไป 2 วัน สามีโทรมาถามด้วยเสียงหวานว่า "ที่รัก คุณจะกลับบ้านเมื่อไหร่?" แต่เธอโกหกว่าจะอยู่ต่ออีกประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อรอให้แม่หายดีก่อน ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบมาเพียงว่า “ได้เลย คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรทางนี้ เพียงแค่ดูแลแม่ให้ดี”

หลังจากเขาโทรมาเช็กให้แน่ใจแล้ว ในคืนนั้นก็พาผู้หญิงคนหนึ่งกลับบ้านจริงๆ และเธอก็แทบทรุดเมื่อเห็นตัวตนของ “ชู้รัก” เพราะแท้จริงเป็นคนที่คุ้นเคยกันดี ผู้หญิงคนนี้คือ “เพื่อนรัก” ของเธอเอง ซึ่งทันทีที่ประตูบ้านปิดลง ก็เห็นภาพทั้งคู่ก็โอบกอดกันอย่างเร่าร้อน จนเธอยังไม่อยากจะเชื่อสายตา

ทำไมทั้งคู่ถึงอยู่ด้วยกันได้? ทำไมสามีของเธอถึงมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของภรรยา? ทำไมสองคนนั้นถึงทรยศเธออย่างโหดร้ายขนาดนี้?

เธอพยายามระงับความโกรธ แล้วลองโทรไปหาสามีถามว่าเขาทำอะไรอยู่ อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า “ผมอยู่ที่บริษัท วันนี้งานเยอะมาก” แต่ภาพที่เธอเห็นคือเขากำลังกอดเพื่อนสนิทของเธอ เธอจึงแกล้งถามต่อไปว่า ทำอะไรลับหลังหรือเปล่า? สามีถึงกับชะงัก ก่อนตะโกนอย่างฉุนเฉียวว่า  "มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร! อย่าคิดไร้สาระ!" เธอจึงเอ่นตัดบทว่าจะกลับบ้านพรุ่งนี้

จุดจบที่คุ้มค่าสำหรับสามีใจเกเร

ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนบ้านที่เดือดร้อนจากเสียงรบกวนจนนอนไม่หลับ เธอคงไม่รู้ว่าสามีที่ไว้ใจกับเพื่อนรักแอบแทงข้างหลังสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะจัดการกับทุกสิ่งอย่างเด็ดขาด

ก่อนอื่น เธอส่งภาพและวิดีโอบางส่วนจากกล้องวงจรไป ไปยังหัวหน้าส่วนต่างๆ ของโรงงาน และกลุ่มผู้บริหารบริษัทของเราสิ่งนี้ก็ทำให้สามีตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขารีบโทรมาทันทีด้วยเสียงสั่นเครือ "ที่รัก ช่วยฟังคำอธิบายของผมด้วย มันเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด ผมกับเธอไม่มีอะไรเลย”

แม้เธอจะบอกว่าสิ่งที่อยู่ในคลิปอธิบายทุกอย่างแล้ว แต่สามีก็ยังพยายามแก้ตัวจนนาทีสุดท้าย โดยบอกว่ามันถูก “ตัดต่อ” ขึ้นมา แต่เธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะฟังเรื่องโกหกจึงเสนอให้หย่าร้าง เมื่อจนมุมอีกฝ่ายก็เริ่มแสดงความโกรธเกรี้ยว

“คุณพูดแบบนั้นกับผมได้ยังไง? เราเป็นสามีภรรยากันมาหลายปีแล้ว คุณไม่เชื่อผมเหรอ? หย่า? คุณต้องการหย่ากับผมเพราะอะไร? คุณคิดว่าแค่วิดีโอนั้นสามารถทำร้ายผมได้หรือไง? ผมจะไม่ยอมให้คุณทำอย่างนั้น” เธอตัดสินใจวางสายไปเพราะไม่อยากได้ยินข้อแก้ตัวหรือคำขู่จากเขาอีกต่อไป

ไม่นานหลังจากนั้น เรื่องอื้อฉาวของสามีก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในบริษัท และบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทุกวันเขาต้องฟังเสียงซุบซิบจากลูกน้อง ที่แสดงออกถึงความผิดหวัง แม้เขาจะพยายามอธิบายผู้บริหารฟัง โดยหวังว่าทุกคนจะให้อภัยเขา แต่ทุกคนกลับแสดงความรังเกียจพฤติกรรมนอกใจ

ราวกับเกียรติยศของเขาถูกทำลายไปหมดแล้ว และในอนาคตเขาจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นในวงการได้อีกต่อไป แท้แต่อีเมล์ของเขาก็ยังเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ท้ายที่สุดเขาไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้ จึงโทรหาภรรยาอีกครั้งเพื่อขอให้ฉันยกโทษ "ที่รัก ผมรู้ความผิดพลาดของตัวเองดีแล้วจริงๆ คุณยกโทษให้ผมได้ไหม? ผมไม่อยากเสียคุณไป ไม่อยากสูญเสียครอบครัวของเราไป”

แน่นอนว่าเธอปฏิเสธและวางสายโดยไม่สนใจเสียงร้องไห้แม้แต่น้อย ชื่อเสียงของเขาที่ถูกทำลายนั้นเป็นความผิดของเขา มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย ส่วนตัวเธอเองเมื่อทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ก็จะพบความสุขของตัวเองต่อไป….

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook